คาริม เบนเซม่า หัวหอกจอมเก๋า สร้างสถิติใหม่หลายๆ สถิติให้ตัวเอง แม้ เรอัล มาดริด จะบุกไปแพ้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 3-4 ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบรองชนะเลิศ นัดแรก

เกมนี้หัวหอกทีมชาติฝรั่งเศส มีชื่อทำ 2 ประตูช่วยทีมในนาที 33 และจุดโทษนาที 82 ซึ่งจากประตูที่เกิดขึ้นทำให้ คาริม เบนเซม่า เป็นนักเตะคนแรกในประวัติศาสตร์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่ทำ 5 ประตูเกมเยือนในรอบน็อกเอาท์ใส่ตัวแทนสโมสรที่มาจากชาติเดียวกัน (เชลซี,แมนเชสเตอร์ ซิตี้) และยิงประตูต่อซีซั่นใน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลนี้มากสุด โดยยิงไปแล้ว 14 ประตู จาก 10 เกม พร้อมกับเพิ่มสถิติยิงให้กับต้นสังกัดไป 69 ประตูในรายการนี้ด้วย



นอกจากนี้ เป็นผู้เล่นคนแรกที่ยิงมากกว่า 40+ ประตู ในซีซั่นเดียวให้ เรอัล มาดริด นับตั้งแต่ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เคยทำไว้ในปี 2018 (44 ประตู) อีกทั้งยังเป็นแข้งคนที่ 2 ที่ทำ มากกว่า 40+ ประตู ในทุกรายการในลีกใหญ่ของยุโรป ต่อจาก โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ของ บาเยิร์น มิวนิค และยังเป็นแข้งชาวฝรั่งเศส รายที่ 3 ที่ทำมากกว่า 40 ประตูในทุกรายการ ใน 5 ลีกยุโรป ต่อจาก สเตฟาน กีวาร์ช (1996-1997),คีเลียน เอ็มปัปเป้ (2020-2021)

โดยก่อนหน้านี้ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย นัดที่ 2 ที่ เรอัล มาดริด ชนะ เชลซี 3-1  เบนเซม่า สร้างสถิติเป็นกองหน้าอายุมากที่สุด ที่ยิงแฮตทริกได้ในถ้วย ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในวัย 34 ปี  80 วัน พร้อมกันนี้ยังเพิ่มสถิติยิงให้กับต้นสังกัดไปเพิ่มเป็น 69 ประตูในรายการนี้เวลานี้