(https://static.siamsport.co.th/column/2022/04/20/column202204202134101.jpg)
เชื่อว่าทุกคนคงมองคล้ายๆกันนะครับว่าหลังเกมแดงเดือด นักเตะที่โดดเด่นสุดคนหนึ่งของทีมลิเวอร์พูลคือ ติอาโก้ อัลคันทารา สายเลือดแชมป์โลกบราซิล 1994 เกิดที่อิตาลี เติบโตที่สเปน
แฟนบอลยุค90 ย่อมรู้จักคุณพ่อของ ติอาโก้ คือ มาซินโญ ได้ดี
คุณพ่อเล่นกองกลางในระบบ 4-4-2 ของบราซิลที่มีแผงมิดฟิลด์ที่ดีสุดในช่วงเวลานั้นจนมีส่วนพาทีมคว้าแชมป์โลกจาก คาร์ลอส ดุงกา มิดฟิลด์ตัวตัดเกม ที่ยืนคู่กับ เมาโร ซิลวา ลงตัวเป๊ะ มี ซินโญ และ มาซินโย ช่วยตัดเกมด้านข้างทั้งสองฝั่ง
จะว่าไปตอนแรก มาซินโญ "สำรอง" เพราะโค้ช คาร์ลอส ปาร์ไรรา เลือกแผงกองกลาง เมาโร ซิลวา, ซินโญ และ ดุงกา โดยมี ไร กัปตันทีมรับบทกลางตัวรุกหลัง เบเบโต และ โรมาริโอ แต่พอจบรอบแรกสามนัด ปาร์ไรรา ตัดสินใจดร็อป ไร ซึ่งเป็นกัปตันทีมนั่ง แล้วเลือก มาซินโย ลงสนามแทนตั้งแต่รอบ16 ทีมจนได้แชมป์ ด้วยการชนะจุดโทษอิตาลี ซึ่ง นักเตะที่ประสบการณ์สูงและเป็นตัวความหวังของชาวอิตาเลียนยิงจุดโทษไม่เข้านั่นแหละ
(http://static.siamsport.co.th/files/images/gettyimages-1240090887-594x594.jpg)
สไตล์ของ ติอาโก้ คนละแบบกับพ่อของเขาที่รับบทตัวเชื่อมเกม ตัดเกม และมักจะอยู่พื้นที่ด้านข้าง บราซิลชุดนั้นเล่นแบบไม่มีปีกในระบบ 4-4-2 จะไดมอนด์ ก็ไม่ใช่ซะทีเดียว กลางสี่คนคือหัวใจ คือห้องเครื่องทั้งรับและรุก เพราะหน้าคู่ของบราซิลชุดนั้นสุดยอดอยู่แล้ว โรมาริโอ และ เบเบโต้ ที่นอกสนามไม่กินเส้นกันแต่ในสนามเข้าขากันเหลือเกิน
ติอาโก้ อยู่ที่บราซิลตอนเด็กก่อนมาเป็นนักเตะฝึกหัดบาร์เซโลนาปี 2005 ช่วงนั้น แฟร้งค์ ไรจ์การ์ด เป็นโค้ชใหญ่ นักเตะเยาวชนรุ่นพี่ชุดยู17 ก็ ลิโอเนล เมสซี ส่วนเขานั้นยังเป็นยู 12 ทั้งความที่เป็นบราซิลและฝึกบอลที่ ลา มาเซีย ติอาโก้ จึงได้สเตปบอลแดนกลางเชิงเทคนิคติดตัว ครองบอลได้ดี ผ่านบอลแม่น โดยเฉพาะการผ่านบอลระหว่างไลน์ ทะลุแดนสองไปแดนสาม แนวลึก อีกทั้งยังเป็นตัวเปลี่ยนบอลจากยากเป็นง่าย
ช่วงอยู่บาร์ซ่าก็อย่างที่รู้กันแม้ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า พยายามดันขึ้นมา แต่ก็จะไปแทรก ชาบี เอร์นาเดส, อิเนียสต้า และ เซร์คิโอ บุสเกต ตรงไหน คือได้เล่นบ้างแหละ แต่ไม่ได้บ่อยอะไรจน เป๊ป ไปคุมบาเยิร์น มิวนิค นั่นเองที่ ติอาโก้ แจ้งเกิดและมีพื้นที่เป็นของตัวเองในแดนกลาง ซึ่งอยู่กับบาเยิร์น มิวนิค ก็เล่นได้ทั้งเบอร์ 6 และเบอร์ 8 จนได้แชมป์มากมาย
(http://static.siamsport.co.th/files/images/gettyimages-1392402989-594x594.jpg)
ตัดมาที่ลิเวอร์พูล...จากเกม "แดงเดือด" ล่าสุดเขาคือ แมน ออฟ เดอะ แมตช์ จากทุกสื่อรวมทั้งผู้สันทัดกรณี ตำนานนักเตะที่ได้มีโอกาสชมและได้แสดงทัศนะ อย่าง พอล สโกลส์ ที่อยู่ในแอนฟิลด์เพื่อวิเคราะห์บอลคู่นี้ก็บอกว่า ติอาโก้ คือหัวใจในการควบคุมเกมทั้งหมดของหงส์แดง
แม้แนวรุกโชว์ฟอร์มเข้าขากันได้ดีทั้งสามสี่คน...แต่ ติอาโก้ กลับโดดเด่นในเกม
ทั้งตัดบอล, จ่ายบอลระหว่างไลน์, บอลแนวลึก ให้ทีมได้ทะลวงเกมรับแมนฯยูไนเต็ด สบายๆ
มีสถิติระบุว่าวันที่ชนะแมนฯซิตี้ 3-2 ในเอฟเอ คัพ ซึ่งเขาก็โดดเด่นพอสมควร
% ความแม่นในการผ่านบอลของเขาคือ 92 แต่มานัดถล่มแมนฯยูฯไนเต็ด 4-0 ตัวเลขกลับสูงขึ้นถึง 96% ของความแม่น
ดูสถิติใน fifa22 พบว่าตัวเลขที่เป็นจุดแข็งของเขาคือคุณลักษณะของนักเตะกองกลาง...
ครองบอล 92 เลี้ยงบอล 89
ผ่านบอลสั้น 90 ผ่านบอลยาว 89
วิชั่นในการเล่น 85
การควบคุมเกม 88
การตัดบอล 82
ตัวเลขที่ไม่สูงเท่าไหร่คือ สปีดแค่ 55 เอง....ก็ตามนั้น
บรรดานักวิเคราะห์บอลเยอรมันพูดถึง ติอาโก้ ก่อนย้ายมาลิเวอร์พูลว่าได้ของดีไปเสริมศักยภาพแดนกลาง ติอาโก้ ไม่ใช่นักเตะที่ "แอสซิสต์" ให้เพื่อนยิงประตู เพราะโดนตำแหน่งของเขามันไม่ได้ไปใกล้เขตโทษสักเท่าไหร่ แต่สิ่งที่เป็นประโยชน์จากตัวของเขา...คือหลายๆประตูที่ยิงได้ จุดเริ่มมาจากการผ่านบอลของเขา
อย่างเช่นบอลทะลุช่อง, ตัดหลังแบ็กเซนเตอร์, ออกบอลไปด้านกว้างได้เปรียบ...
เกมล่าสุดที่เล่นกับแมนฯยูไนเต็ด จะว่าไปมันก็ไม่แปลกที่เขาจะโชว์ฟอร์มทั้งความสามารถส่วนตัวของเขาและคุณภาพที่ดูไม่มีมาตรฐานของแดนกลางผีแดง บางที การมี เฟรด และ แมกโทมิเนย์ อยู่มันก็อาจทำให้ เขาเล่นยากกว่าที่เห็น
กระนั้น...ติอาโก้ อัลคันทารา คือนักเตะผู้ปิดทองหลังพระจนล้นออกมาข้างหน้าให้คนเห็น... unsung hero ที่ใครๆก็กล่าวขวัญกันไปทั่ว